บริษัท ไอ.ที.เฮ้าส์ จำกัด ประวัติโดยย่อ สถานที่ประกอบการ เป็นอาคารพาณิชย์3 ชั้น 2 คูหา ตั้งอยู่เลขที่ 62-64 ถนนมหาดไทย ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ก่อตั้งเมื่อเมื่อวันที่ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2538 ด้วยเงินทุนจดทะเบียน 3,000,000 บาท จำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์ และ อุปกรณ์เกี่ยวกับ ระบบสารสนเทศ และ และระบบเครือข่าย ลักษณะธุรกิจที่เปิดดำเนินการ 1. จำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วงทุกชนิด 2. รับบริการงานติดตั้งและบำรุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ 3. ที่ปรึกษาออกแบบ , ติดตั้งระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ให้สำนักงาน ,หน่วยงานราชการ 4. รายชื่อมีบริษัทในเครือ 1. บริษัทเกษมวิศว์ จำกัด รับเหมาอาคารขนาดใหญ่ 2. บริษัทกฤษนันท์ จำกัด รับงานระบบ ปรับปรุงตบแต่งภายใน 3. บริษัท เค.เอ็น.ออฟฟิศเมต จำกัด รับวางระบบบัญชีจำหน่ายโปรแกรมบัญชี สำเร็จรูปสำหรับธุรกิจขนาดกลางรับวางระบบบัญชี โดยใช้โปรแกรมเพื่อการจัดการทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สถานที่ประกอบธุรกิจ อยู่ภายในจังหวัดนครราชสีมารวม 20 อำเภอ และ จังหวัดโดยรอบ ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สระบุรี ประวัติและผลการทำงานกับหน่วยงานราชการและองค์การต่าง ๆ กลุ่มลูกค้าหลักของ บริษัทแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ 1. หน่วยงานราชการภาคการศึกษา และ สาธารณสุข 1.1 โรงพยาบาลของรัฐ, หน่วยงานทางด้านสาธารณสุข โรงพยาบาลมหาราช ,โรงพยาบาลค่ายสุรนารี , โรงพยาบาลเทพรัตน์ , โรงพยาบาลกรุงเทพ-ราชสีมาโรงพยาบาล มทส. , และโรงพยาบาลสังกัดสาธารณสุขจังหวัด 1.2 โรงเรียนของรัฐบาลระดับมัธยมศึกษา , วิทยาลัยอาชีวศึกษา 1.3 หน่วยงานสังกัดเทศบาล 2. ภาคเอกชน บริษัท กลุ่มโรงงาน และ SME 2.1 บริษัทสงวนวงษ์อุตสาหกรรม ( ผลิตแป้งมัน) , บริษัทเกลือพิมาย ( ผลิตเกลือปรุงทิพย์ ) 2.2 บริษัทขนาดกลาง Website บริษัท WWW.ithousekorat.com สินค้าและผลิตภัณท์ ที่ ไอ.ที.เฮ้าส์ เป็นตัวแทนจำหน่าย 2 ประเภท 1. ประเภทอุปกรณ์ Hardware 2. โปรแกรม ระบบปฏิบัติการ Software 1.Hardware แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.ผลิตภัณท์คอมพิวเตอร์ ทุกประเภท เช่น PC, Notebook , All In One 1.1ประเภท Inter Brand เช่น HP , Dell , Lenovo , ACER 1.2ประเภท Local Brand เช่น Lemel , SVOA Computer 2.ผลิตภัณท์ ระบบเครือข่าย ( Networking ) และ ระบบกล้องวงจรปิด 2.1 Networking System Equipment 2.1.1 ประเภท Inter Brand เช่น CISCO , ARUBA 2.1.2 ประเภท Local Brand เช่น TP-Link , D Link, Zyxel 2.1.3 ระบบสายสัญญาณสายสัญญาณและอุปกรณ์ติดตั้ง ยี่ห้อ Inter Link 2.2 ระบบกล้องวงจรปิด ตัวแทนจำหน่ายกล้อง ยี่ห้อ BOSCH , HIVISION 3.กลุ่มอุปกรณ์ต่อพ่วง ( Pheripheral ) 3.1 เครื่องสำรองไฟฟ้า ยี่ห้อ Leonics , Syndome , APC 3.2 Printer และ MFP ยี่ห้อ HP, Cannon, Epson , OKI, Brother 3.3 Scanner High Speed ยี่ห้อ Fujistu 2.โปรแกรม Software เป็นตัวแทนจำหน่าย 2.1 โปรแกรม Windows ระบบปฎิบัติการ Microsoft และ ระบบเครือข่าย Windows server 2.2 โปรแกรม ระบบบัญชี ตัวแทนจำหน่ายโปรแกรมบัญชี EXPRESS กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย หลักคือ หน่วยงานราชการ และ เอกชนระดับ SME ปี 2561 มีเป้าหมายขยาย สินค้ารองรับ Digital Life มากขึ้นเนื่องจาก โครงข่ายความเร็วสูงได้เกิดขึ้นอย่างสมบรูณ์และ มีแนวโน้มเติบโตขึ้น จากทางภาครัฐและเอกชน ระบบราชการมีการใช้งานผ่านทางระบบเครือข่ายที่ มีประสิทธิภาพ จึงมีการขยายตัวทางด้านอุปกรณ์เพื่อรองรับ โดยเฉพาะกลุ่ม ธารณสุขและการศึกษา โรงพยาบาลมีการใช้งานระบบแม่ข่ายเพิ่มขึ้น การใช้งานบนอินเตอร์เนตต้องมีอุปกรณ์รองรับ ตอบโจทย์ระบบที่กำหนดขึ้นใหม่ เช่น โรงพยาบาลมีระบบ One Stop Service ตรวจคนใช้ ส่งข้อมูลภาพถ่าย จ่ายยาผ่านทางระบบ consult case ผ่านทาง ทางแอพพิเคชั่น จึงต้องipad ,Smart Phone ขนาดใหญ๋ าน ทั้งขยายระบบเครือข่าย โรงพยาบาลมหาราช มูลค่า 3,820,000 บาท - ขยายห้องเรียนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพิมายวิทยา มูลค่า 3,081,000 บาท - ขยายระบบเครือข่าย โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ มูลค่า 1,430,000 บาท - ขยายห้องเรียนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพิมายวิทยา มูลค่า 3,081,000 บาท - ขยายระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ รพ.ค่ายสุรนารี มูลค่า 2,238,100 บาท - ขยายระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ รร.บุญวัฒนา มูลค่า 1,631,000 บาท - ให้เช่าเครื่อง มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา 102 เครื่อง มูลค่า 3,612,000 บาท - ขยายระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ รร.ประทายวิทยา มูลค่า 1,472,500 บาท - ขยายระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ รพ.ค่ายสุรนารี มูลค่า 3,296,500 บาท โครงการและมุมมองธุรกิจในอนาคต วางแผนงาน ทางธุรกิจ ปี 2560 โดยมีจุดมุ่งหมายขยายงานทางด้าน ขายโปรแกรมและรับวางระบบบัญชี ให้กับ เจ้าของธุรกิจขนาดกลาง โดยตั้งเป้าจำหน่ายโปรแกรมสำเร็จรูปทางบัญชี ธุรกิจซื้อ-ขาย คือ โปรแกรม Express และโปรแกรมวิเคราะห์งานก่อสร้าง แบบครบวงจร ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ One Stop Service - จำหน่ายพร้อม เครื่อง Hardware ม วางระบบเครือข่าย อุปกรณ์ ครบ - จำหน่าย โปรแกรมที่ตอบสนองคำตอบทางธุรกิจให้ลูกค้าได้ - มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีเป็นที่ปรึกษา รับวางระบบบัญชีให้ธุรกิจที่ต้องการใช้ - จำหน่ายมีวัสดุสิ้นเปลืองต่อเนื่อง VISION วิสัยทัศน์ของบริษัท เป็นร้านที่ให้บริการทางด้าน ไอ.ที. แบบครบวงจร และ ให้บริการคุณภาพสูงสุด ให้แก่ลูกค้า MISSION ภาระกิจของบริษัท เพื่อให้ได้มาซึ่งการบริการที่มีคุณภาพสูงสุดแก่ลูกค้า คือ ความพึงพอใจสูงสุด Better , รวดเร็ว Faster , ราคายุติธรรม Cheaper นโยบายการดำเนินธุรกิจ 1. ไอ.ที.เฮ้าส์กำหนดนโยบาย เพื่อให้ทิศทางการดำเนินงาน เป็นไปตามเป้าหมายสูงสุดคือ บริการสิ่งที่มีคุณภาพ ให้กับลูกค้า โดยกำหนดมาตรฐานการควบคุมคุณภาพของสินค้าและบริการ ที่จะทำให้ลูกค้าพึงพอใจ 2. เพิ่มศักยภาพและความรู้ใหม่แก่พนักงานตลอดเวลา โดยวิธีการ สนับสนุนการอบรม สัมมนา ทางด้าน I.T. 3. คืนกำไรสู่สังคมตามโอกาสที่พึงกระทำได้ โดยสนับสนุนด้านการเรียนการสอน ให้แก่โรงเรียน และหน่วยงานต่าง , เผยแพร่และให้ข้อมูลทางด้าน สารสนเทศน์ที่ถูกต้องและทันสมัย ให้แก่ประชาชน 4. ส่งเสริมการพัฒนาสังคมโดยการเผยแพร่ความรู้ทางด้าน สารสนเทศน์ให้แก่ ผู้ใช้งาน กลุ่มผลิตภัณท์ ที่ ไอ.ที.เฮ้าส์ เป็นตัวแทนจำหน่าย แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. ผลิตภัณท์คอมพิวเตอร์ ทุกประเภท เช่น Personal Computer , Multimedia PC , Notebook Computer 1.1 ประเภท Inter Brand เช่น HP , Dell , Lenovo , ACER 1.2 ประเภท Local Brand เช่น Lemel , SVOA Computer 2. ผลิตภัณท์ ระบบเครือข่าย ( Networking ) และ ระบบกล้องวงจรปิด 2.1 Networking Equipment 2.1.1 ประเภท Inter Brand เช่น CISCO , ARUBA 2.1.2 ประเภท Local Brand เช่น TP-Link , D Link, Zyxel 2.2 ระบบสายสัญญาณ ตัวแทนนำหน่าย สายสัญญาณและอุปกรณ์ติดตั้ง ยี่ห้อ Inter Link 2.3 ระบบกล้องวงจรปิด ตัวแทนจำหน่ายกล้อง 2.3.1 กล้องประเภท Inter Brand ยี่ห้อ BOSCH 2.3.2 กล้อง ยี่ห้อ HIVISION , ต้าหัว 3. กลุ่มอุปกรณ์ต่อพ่วง ( Pheripheral ) 3.1 เครื่องสำรองไฟฟ้า ยี่ห้อ Leonics , Syndome , APC 3.2 Printer ยี่ห้อ HP, Epson , Panasonic ,OKI นโยบายส่งเสริมการตลาด เพื่อให้สามารถทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และเพิ่มยอดขาย ไอ.ที.เฮ้าส์ มีกิจกรรมสนับสนุนเช่น 1. การโฆษณา / ประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อทางวิทยุ , จัดอบรมร่วมกับคู่ค้า 2. Social Media จัดทำเวบไซด์ , @Line , 3. จัดโปรแกรมส่งเสริมการขายให้ลูกค้า เช่น ซื้อสินค้าได้ส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า , ออกรายการสินค้าราคาพิเศษ 4. การประชาสัมพันธ์ โดยการบริจาคอุปกรณ์และทุนให้กับโรงเรียนต่างๆ 5. มีการส่งพนักงานอบรมเพิ่มเติม เพื่อให้ทราบถึงเทคโนโลยีใหม่ และ สามารถใช้ไปช่วยงานลูกค้าได้อย่างเต็มที่ จากผลการดำเนินงานที่บรรลุได้ตามเป้าหมาย จึงทำให้ยอดขายของ ไอ.ที.เอ้าส์ เติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดมา ไอ.ที.เฮ้าส์ จึงมีความมั่นใจ และความพร้อมที่ดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงด้วย และให้บริการที่ดีต่อลูกค้า กรรมการบริหาร แผนขาย – บริการ แผนกบัญชี แผนกช่างเทคนิค าร - ขายปลีกหน้าร้าน - จัดซื้อ - ฝ่ายติดตั้ง จัดส่งเครื่องลูกค้า - ประมูลงานส่วนราชการ - ดูแลสต็อคสินค้า - ฝ่ายดูแลซ่อมบำรุงเครื่องอุปกรณ์ - บริการดูแลอุปกรณ์ - บัญชีรับ – จ่าย - ฝ่ายดูแลโปรแกรมการใช้งาน ส่งซ่อมให้ลูกค้า - ฝ่ายออกบริการนอกสถานที่ - บริการอินเตอร์เน็ต รายเดือน - รับแจ้งปัญหาจากลูกค้า - ดูแลให้คำแนะนำเทคนิคพิเศษ - แก้ไขปัญหาเบื้องต้นทางโทรศัพท์ จำนวนพนักงานในแผนกต่าง ๆ มีดังต่อไปนี้ แผนกขาย – บริการ จำนวน 4 คน จัดส่งสินค้า-เอกสาร จำนวน 2 คน แผนกบัญชี - สต็อค จำนวน 2 คน แผนกช่างเทคนิค – บริการ 1. ช่างงานคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล จำนวน 1 คน 2. ช่างดูแลติดตั้งระบบไฟฟ้าและระบบเครือข่าย จำนวน 3 คน 3. ช่างบริการนอกสถานที่และซ่อมอุปกรณ์ จำนวน 1 คน 4. พนักงานงานบริหารงานช่าง จำนวน 1 คน รวมจำนวน 14 คน • ห้างหุ้นส่วนจำกัดไอ.ที.เฮ้าส์ เปิดดำเนินการมาเป็นเวลา 20 ปี เปิดทำการจำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์ และ อุปกรณ์เกี่ยวกับระบบสารสนเทศ และ ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต มีบริษัทในเครือเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างอาคาร งานไฟฟ้าอาคาร มีธุรกิจพื้นฐานขายวัสดุก่อสร้างเป็นแหล่งเงินทุน ได้รับความเชื่อถือและไว้วางในวงการธุรกิจจากคนในพื้นที่เป็นอย่างดี 2. วิเคราะห์สถานการณ์ภายนอก 2.1 สภาพแวดล้อมทั่วไป • เศรษฐกิจ (Economics) - อัตราคนว่างงานสูงทำให้สามารถเลือกสรรบุคลากรที่มีฝีมือ และ จ้างในอัตราที่เหมาะสมไม่สูงเกินไปส่งผล กระทบให้ต้นทุนในการดำเนินการที่ต่ำลง การแข่งขันเพิ่มขึ้น - การเพิ่มค่าสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า น้ำมัน เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจจากภายนอกประเทศ ส่งผลให้ต้นทุนในการดำเนินการสูงขึ้น การแข่งขันลดลง - อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจลดลง ประชาชนใช้จ่ายแบบประหยัด ยอดขายค่อนข้างคงที่ • การเมือง (Politics) - การเมืองในประเทศไม่ค่อยมีเสถียรภาพ นโยบายทางเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวยให้ขยายตัวทางธุรกิจ โดยเฉพาะธนาคารไม่ขยายสินเชื่อ ทำให้ธุรกิจขยายตัวทางได้ไม่เต็มที่ - นโยบายการค้าเสรีส่งผลให้มีการขยายตัวในการใช้อุปกรณ์ และสินค้าทางด้าน I.T. มากขึ้นทำให้ธุรกิจทางด้านนี้ยังมีทางขยายตัวได้บ้าง - นโยบายภาครัฐส่งเสริมเรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้การใช้อุปกรณ์และเครื่องคอมพิวเตอร์ สูงขึ้น ช่วยในเรื่องการขยายตัวทางธุรกิจ - กฎหมายลิขสิทธิ์ เป็นต้นทุนอีกประการที่ทำให้ธุรกิจ ไอ.ที.สำหรับประเทศด้อยพัฒนาต้องจ่าย ค่าลิขสิทธิ์ที่มีราคาสูงกว่าเครื่อง • สังคม (Socials) - ระบบการศึกษามีความก้าวหน้ามากขึ้น ความต้องการในการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์มีมากขึ้น - คุณภาพชีวิตของประชาชนในสังคมสูงขึ้น คอมพิวเตอร์ และ ระบบสารสนเทศมีความจำเป็นมากขึ้นทำให้ธุรกิจยังมีความต่อเนื่องได้ - วัฒนธรรมของคนในสังคมไม่มีความแตกต่างมากนักจึงทำให้มีการยอมรับการใช้คอมพิวเตอร์มากขึ้น • เทคโนโลยี ( Technology ) - ความก้าวหน้าทางการสื่อสารมีความรวดเร็วมากขึ้น คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือสำคัญในการดำเนินการ เป็นการช่วยธุรกิจด้าน I.T. - การปรับเปลี่ยนรุ่น อย่างรวดเร็ว ทำให้สินค้ามีวงจรอายุสั้น สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ช่วยให้ธุรกิจไม่หยุดนิ่ง - คอมพิวเตอร์ราคาถูกลงตามการเปลี่ยนรุ่นของเครื่อง ช่วยกระตุ้นการซื้อของผู้ใช้ 2.2 สภาพแวดล้อมของการแข่งขัน (Industrial structure analysis) คู่แข่งใหม่มีมากเนื่องจากการลงทุนต่ำ การต่อสู้กับคู่ แข่งเดิมมีมาก อำนาจการต่อรองจากผู้ผลิตและจำหน่าย อำนาจการต่อรองจากลูกค้ามีมาก มีน้อยเนื่องจากสินค้าเปลี่ยนแปลงเร็ว เนื่องจากความหลากหลายของสินค้า ทั้งผู้ผลิตส่งออกและนำเข้ามาก และระดับของคุณภาพสินค้า สินค้าทดแทนมีมาก มีการลอกเลียนแบบ Potential Entrants 1. มีคู่แข่งใหม่เพิ่มขึ้นตลอดเวลาเนื่องจากใช้เงินลงทุนไม่สูงมากนัก และสินค้าเกิดใหม่ตลอดเวลา 2. การแข่งขันมีมากตั้งแต่เรื่องของราคา ความหลากหลายของสินค้า การให้บริการหลังการขาย Suppliers 1. มีอำนาจการต่อรองต่ำเนื่องจากมีบริษัทผู้ผลิตมีมากนัก และผู้จัดจำหน่ายมีมาก 2. สินค้าเปลี่ยนรุ่นเร็ว การแข่งขันของผู้ผลิตและผู้นำเข้าเองก็มีสูง สินค้าเปลี่ยนแปลงเร็ว Substitutions 1. มีสินค้าลอกเลียนแบบเข้ามาทดแทน ทำให้การแข่งขันสูง เช่น สินค้าผลิตจากประเทศจีน ที่ทำลอกเลียน แบบ 2. มีสินค้าหลบเลี่ยงภาษี ทำให้ต้นทุนต่ำ การแข่งขันด้านราคามีสูง ผู้จำหน่ายแอบนำชิ้นส่วนขนาดเล็กแต่ราคาสูง เช่น RAM , CPU เข้ามาโดยไม่เสียภาษี Buyers 1. ลูกค้ามีอำนาจต่อรองสูง เนื่องจากสินค้ามีความหลากหลาย และ เปลี่ยนแปลงเร็ว 2. การจำกัดเรื่องตัวแทนจำหน่ายมีน้อย การแข่งขันสูง ลูกค้าสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เดียวกันได้ 3. สินค้าใช้งานง่ายขึ้น อำนาจการต่อรองลูกคาสูงขึ้น ไม่ต้องพึ่งบริการหลังการขาย Industry Competition 1. คู่แข่งขันเดิมมีสูง เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ต้องมีภาระผูกพันด้วยบริการหลังการขาย ธุรกิจเข้าง่ายออกยาก 2. การแข่งขันต้องมีครบทุกทาง สินค้าต่อสู้เรื่องราคา บริการหลังการขาย หลากหลายตามความต้องการของลูกค้า การบริการครบวงจร One Stop service ที่คู่แข่งเดิมพยายาม LOCKIN CUSTUMER 2.3 ประเด็นที่แสดงถึงโอกาสของธุรกิจ ( Opportunities) และข้อจำกัด ( Threats ) วิเคราะห์โอกาสของธุรกิจ ( Opportunities ) 5 ข้อคือ 1.ในยุคของข้อมูลข่าวสารมีความสำคัญ คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่จำเป็นต่อการใช้งานด้านสารสนเทศ ทำให้ธุรกิจนี้จัดอยู่ในกลุ่มที่มีโอกาสเติบโตได้ในอนาคต 2. นโยบายของภาครัฐยังส่งเสริมเรื่องความรู้และการใช้งานด้านสารสนเทศอยู่จึงยังมีงบประมาณในการจัด ซื้อและจัดจ้างด้าน I.T. 3. ตัวสินค้ามีการเปลี่ยนรุ่นเร็ว ทำให้ความต้องการไม่มีขีดจำกัด ธุรกิจจึงต่อเนื่องตลอดเวลา 4. การใช้คอมพิวเตอร์มีความแพร่หลาย กลุ่มผู้ใช้งานขยายตัวอย่างรวดเร็ว ในทุกส่วนของสังคม ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน 5. ผู้ประกอบการธุรกิจต้องมีความรู้และความชำนาญเฉพาะทำให้คู่แข่งที่เข้ามาไม่มากเหมือนธุรกิจด้าน อื่น โดยเฉพาะงานด้านเทคนิคใหม่ ๆ วิเคราะห์ข้อจำกัดหรืออุปสรรคของธุรกิจ (Threats ) 5 ข้อคือ 1. สินค้าปรับเปลี่ยนรุ่นรวดเร็ว มีสินค้าคุณภาพต่ำ ลอกเลียนแบบ สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เข้ามาจำหน่ายในท้องตลาดสูง ทำให้การแข่งขัน ด้านราคาสูง 2. สินค้าบางส่วนนำเข้าจากต่างประเทศ ค่าเงินบาทที่อ่อนตัวทำให้ต้นทุนสูง ตลาดซบเซาในบางช่วงเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไม่ดี กำลังซื้อถูกจำกัด 3. ลูกค้าเน้นสินค้าราคาถูกมากกว่าคุณภาพ ทำให้ต้องเพิ่มเรื่องการบริการมากขึ้น ต้นทุนการดำเนินการสูงขึ้น 3. วิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จ ( Critical Success Factor ) บริษัทได้คำนึงถึงการดำรงธุรกิจด้วยวิธีการพัฒนาแบบยั่งยืน ( Sustainable Development ) โดยมีวิสัยทัศน์ของธุรกิจดังนี้คือ “ สร้างสรรค์งาน และบริการคุณภาพ “ มีเป้าหมายคือ การให้บริการลูกค้าในเรื่องของระบบสารสนเทศน์ที่ครบวงจร สร้างความหลากหลายของสินค้าให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงเป้าหมาย ด้วยบริการที่รวดเร็ว ( Best Service ) มีประสิทธิภาพ ( Best Product ) ซื่อสัตย์และมีคุณธรรมต่อลูกค้า ( Best Brain and Reasonable Price ) เสริมด้วยสมรรถนะภาพในการแข่งขัน โดยวิธีการวิเคราะห์เป็นประเด็นด้วยตัวแบบ 7 ‘S Framework ของ Mckinsey ดังนี้คือ Strategy : กลยุทธ์ที่ใช้ในการบริหารในปัจจุบันผู้บริหารมองว่า ธุรกิจที่ทำเป็นความผูกพันระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย ดังนั้นกลยุทธ์คือต้อง คิดดีซื่อสัตย์ ต่อลูกค้ากำหนดราคายุติธรรม (Best Brain and Reasonable price ) , เลือกสรรสินค้าที่ดีมีคุณภาพ ( Best Product ) , บริการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ (Best Service ) Structure : โครงสร้างขององค์กรมีลักษณะเป็นแบบราบ ( Flat Organization ) ไม่มีสายการบังคับมาก แต่ละแผนกมีการทำงานที่คล่องตัว ติดต่อประสานกันได้โดยตรงในแนวราบ System : ระบบแบบแผนการทำงานชัดเจนตามหน้าที่ตามตำแหน่งงาน เมื่อมีการปรับเปลี่ยนบุคลากรก็สามารถทำงานได้ทันที งานไม่มีการติดขัด Style : ผู้บริหารใช้แนวคิดเรื่องการบริหารการจัดมาใช้องค์กร เน้นเรื่องของระบบและเป็นองค์กรแบบเปิด พร้อมที่จะเรียนรู้และมี ปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมภายนอกตลอดเวลา จึงทำให้บริษัทมีความยืดหยุ่นในการทำงานสูง Staff : บุคลากรในบริษัทถูกฝึกให้พร้อมที่จะเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ มีการส่งอบรม และ ดูงานเมื่อมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เป็นบริษัทที่ Learning ตลอดเวลา ทั้งผู้บริหารและบุคลากรทุกคนในบริษัท มีรางวัลจูงใจและส่งเสริมสวัสดิการด้านต่าง ๆ เช่น ส่งอบรมสัมมนา จัดวันหยุดพักผ่อนประจำปี มีโบนัสปลายปีให้แก่พนักงาน ให้พนัก Skill : มีการส่งพนักงานอบรมนอกสถานที่ และจัดอบรมภายในสถานที่อยู่เสมอ มีห้องสมุดและห้องTraining ส่งเสริมเรื่องตำรา หนังสือ เอกสารที่ต้องการใช้ให้ฟรี Shared Value : ค่านิยมร่วมที่บริษัทส่งเสริมคือ การปลูกฝังวัฒนธรรมของการเรียนรู้เทคโนโลยีที่ออกใหม่เสมอ การปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ มีการประชุมแสดงความคิดเห็นร่วมกันโดยแบ่งการประชุมเป็น 3 ครั้งดังนี้คือ ประชุมฝ่ายขาย และการตลาด บัญชี เดือนละ 1 ครั้ง ประชุมฝ่ายช่างและบริการลูกค้าเดือนละ 1 ครั้ง และประชุมรวมพนักงานทั้งหมดเดือนละ 1 ครั้ง ผู้บริหารจะได้พบปะพูดคุยกับพนักงานทุกคน เดือนละ 2 ครั้งเป็นอย่างน้อย โซ่ร้อยค่านิยม ( Value Chain ) ของบริษัท มีรายละเอียดดังนี้คือ กิจกรรมหลัก ( Primary Activities ) อธิบายได้ในรายละเอียดดังนี้คือ 1. การสั่งซื้อชิ้นส่วนและอุปกรณ์เพื่อนำมาประกอบเครื่องเข้าสู่กิจกรรมหลัก ( Inbound Logistics )มีการใช้ระบบ MIS เข้ามาช่วยในการตรวจเช็คสต๊อคสินค้า เกิดความสัมพันธ์ในทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการประกอบเครื่อง ตั้งแต่การรับใบสั่งซื้อจากลูกค้า จนกระทั่งการประกอบเครื่อง จัดเตรียมโปรแกรม เช็คการทำงานของเครื่อง การจัดส่ง การซ่อมและบริการหลังการขาย 2. การปฏิบัติการภายใน ( Operations ) มีการนำระบบ MIS เข้ามาช่วยในเรื่องการจัดการเช่น ใช้โปรแกรมระบบบัญชี โปรแกรมจัดเก็บฐานข้อมูลลูกค้าในการให้บริการงานซ่อม การทำงานของส่วนต่างต่างประสานงานกันเป็นทีมงาน โดยมีความสัมพันธ์ของกระบวนการต่างที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ รับใบสั่งซื้อ ออกใบประกอบเครื่อง ฝ่ายบัญชีออกเอกสาร พนักงานส่งของ อย่างเป็นระบบ 3. การจัดส่งสินค้า ( Outbound Logistics ) สามารถจัดส่งได้ภายใน 3 วัน คือ ร้านใช้เวลาในการ ประกอบเครื่อง 1 วัน จัดเตรียมลงโปรแกรม 1 วัน และ Running Test 1 วัน สินค้าคงคลังไม่สูงนัก 4. การตลาดและการขาย ( marketing and Sales ) ระบบการจัดจำหน่ายขายผ่านทางหน้าร้าน และ เข้าพบลูกค้า เมื่อมีการโทรนัดหมายทางโทรศัพท์ มีบริการสอบถามข้อมูลผ่านทางเวบไซต์ของร้านได้ตลอดเวลา มีงบในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ทางสื่อต่าง ๆ เช่น วิทยุ 5. การบริการ (Service ) การบริการหลังการขาย แบ่งเป็นเขตพื้นที่ โดยให้บริการตรวจเช็คฟรีแก่ลูกค้า 3 ครั้งถึงบ้านลูกค้าในเขตอำเภอเมือง และ คิดค่าบริการสำหรับลูกค้านอกเขตรัศมีเกิน 50 กม. กิจกรรมสนับสนุน ( Supporting Activities ) 1. โครงสร้างพื้นฐาน ( Firm Structure ) ถึงแม้จะเป็นองค์กรขนาดกลาง ก่อตั้งมาเป็นเวลาไม่นานนัก แต่เป็นบริษัทที่แยกจากธุรกิจขนาดใหญ่ เป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่ มีฐานะทางการเงินมั่นคง ดังนั้นในเรื่องของศักยภาพโดยรวมจึงค่อนข้างได้เปรียบกับคู่แข่งใหม่ที่จะเข้ามาในธุรกิจ 2. ทรัพยากรมนุษย์ ( Human Resource Management ) มีโครงสร้างทางการบริหารค่อนข้างแน่นอน และแนวคิดของผู้บริหารเปิดโอกาสและสนับสนุนเรื่องการ พัฒนาบุคลากรค่อนข้างมาก ให้สวัสดิการพัฒนาในด้านต่าง ๆ เพียงพอ มรการวางหลักเกณฑ์การคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน มีมาตรฐานในการพัฒนาอบรม 3. การพัฒนาเทคโนโลยี ( Technology Development ) แนวคิดในเรื่องการพัฒนาบุคลากร จึงได้จัดทำศูนย์อบรมภายใน แลกเปลี่ยนความรู้ในเรื่องสารสนเทศของพนักงาน อันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ดียิ่งขึ้น 4. การจัดซื้อ ( Procurement ) มีระบบการจัดซื้อกับ Supplier ผ่านทางระบบอินเตอร์เนต และคู่ค้ามีความมั่นคงทางด้านการเงินและ ความรู้ทางด้านเทคนิค 3.3 กระบวนการหลักและระบบการดำเนินงาน ( Core processes and systems ) Product Development 1. จัดเตรียมอุปกรณ์ ที่ทันสมัยให้กับพนักงานด้านต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์ อ่านบาร์โคด สำหรับแผนกขาย เครื่องมือสำหรับช่างปฏิบัติงาน แผนกบริการ เปลี่ยนเครื่องมือให้ทุก ๆ 6 เดือน 2. มีการส่งพนักงานอบรมดูงานนอกสถานที่ เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้ในการทำงาน Demand Management Process 1. นโยบายพนักงานออกพบลูกค้า เพื่อขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น 2. ร่วมมือกับ Supplier และ ผู้ผลิตในการช่วยประชาสัมพันธ์ ผลิตภัณฑ์ด้าน I.T. Order Fullfillment Process 1. สร้างระบบ MIS ใช้ในการจัดการเรื่องการรับคำสั่งซื้อ ประกอบเครื่อง รับงานซ่อม และติดตามงานบริการหลังการขาย รวมถึงการจัดส่งสินค้า 2. ใช้ระบบอินเตอร์เนตในการติดต่อกับ Supplier ในเรื่องของการติดต่อซื้อขาย ติดตามงาน 3.3 ประเด็นที่แสดงถึงจุดแข็ง ( Strengths ) และจุดอ่อน ( weakness ) ของธุรกิจ วิเคราะห์จุดแข็งของธุรกิจ ( Strength ) 5 ข้อคือ 1.ร้านไอ.ที.เฮ้าส์ ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีอยู่ในแหล่งธุรกิจ ติดถนนใหญ่ อาคาร 2 คูหา หาง่าย มีที่จอดรถสำหรับลูกค้าโดยเฉพาะ 2.ผู้บริหารมีความพร้อมทางด้านเงินทุน ได้รับการสนับสนุนแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงิน แยกตัวจากธุรกิจวัสดุก่อสร้างที่เป็นที่รู้จักและเชื่อถือของบุคคลในพื้นที่ 3. ผู้บริหารมีความชำนาญเฉพาะทางด้าน I.T. จบการศึกษาที่ตรงกับสายงาน มีเพื่อนฝูง คู่ค้าในธุรกิจ I.T. ทำให้ช่วยในเรื่องธุรกิจได้เป็นอย่างดี ศึกษาทางด้านการบริหารการจัดการเพิ่มเติมในปัจจุบัน 4.บุคลากรประกอบด้วยทีมงานที่มีความรู้ ความสามารถเฉพาะมีประสบการณ์ในการทำงาน โดยแยกการทำงานตามความชำนาญเฉพาะ 5 การทำธุรกิจกับภาคราชการต้องเข้าใจในแนวคิดและนโยบายของภาครัฐ และตัวผู้บริหารเองมีความเข้าใจในระบบราชการ เป็นอย่างดี วิเคราะห์จุดอ่อนของธุรกิจ ( weaknesses ) 5 ข้อคือ 1. การลงทุนเพื่อจัดการอบรมพนักงานมีสูงเนื่องจากตัวสินค้าเมื่อการเปลี่ยนแปลงเร็ว ต้องมีความชำนาญในตัวผลิตภัณฑ์เป็นอย่างดี 2. คู่แข่งเดิมที่มีอยู่มีขนาดใหญ่กว่า การแข่งขันสูงเพื่อแย่งลูกค้าจากฐานเดิมของคู่แข่ง 3. เป็นร้านขนาดกลางที่มีการบริการครบวงจร บางครั้งให้บริการไม่ทันต่อความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 4.พนักงานฝ่ายช่างเทคนิคมีความชำนาญแต่ปริมาณยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทิศทางการมองเรื่องการขยายโอกาสทางธุรกิจ 1. ขยายงานเครือข่ายมากขึ้น 1.1 กล้องวงจรปิดที่ตอบโจทย์ การป้องกันภัยคุกคามในปัจจุบันและเพิ่มความปลอดภัยในสังคมเมือง 1.2 ติดตั้งระบบเครือข่ายใยแก้วนำแสง ซึ่งมีราคาถูกลงและรองรับระบบเครือไร้สายความเร็วสูงในปัจจุบัน 4G สำหรับหน่วยงานและองค์ต่างๆ ที่มีการขยายตัวในปัจจุบัน 1.3 หาอุปกรณ์ใหม่ๆ รองรับสังคมไร้สาย ที่ใช้งานง่ายสะดวก เช่น ตัวจัดการ Load Balance การจัดการเครือข่าย , Access Point รุ่นใหม่ 2. ขยายงาน ทีมงานบริหารองค์กร ผู้บริหาร 1. นุชรัตน์ เกรียงเกษม กรรมการผู้จัดการ ปริญญาโทสถาบันพัฒนาบริหารศาสตร์ สาขา การจัดการภาครัฐและเอกชน NIDA ปริญญาตรีวิทยาศาสตร์บัญฑิต สาขาคณิตศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อบรมหลักสูตร MINI MBA คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2. นายกฤษฎิ์ เกรียงเกษม ที่ปรึกษาวางเครือข่าย และการวางแผนกลยุทธ ปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์บัญฑิต ( เกรียตินิยมอันดับ หนึ่ง) สาขาคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อบรมหลักสูตร การบริหารจัดการ MIN MBA มหาวิทยาธรรมศาสคร์ 3. นายวรวิทย์ เกรียงเกษม ที่ปรึกษางานระบบ ปริญญาโทมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สาขา การบริหารงานก่อสร้าง ปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์บัญฑิต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์